ภูมิลำเนานิติบุคคล
มาตรา 68 ภูมิลำเนาของนิติบุคคลได้แก่ถิ่นอันเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่หรือถิ่นอันเป็นที่ตั้งที่ทำการ หรือถิ่นที่ได้เลือกเอาเป็นภูมิลำเนาเฉพาะการตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้ง
มาตรา 69 ในกรณีที่นิติบุคคลมีที่ตั้งทำการหลายแห่ง หรือมีสำนักงานสาขา ให้ถือว่าถิ่นอันเป็นที่ตั้งของที่ทำการหรือของสำนักงานสาขาเป็นภูมิลำเนาในส่วนกิจการอันได้กระทำ ณ ที่นั้นด้วย
หากนิติบุคคลใดมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่หรือตั้งที่ทำการขึ้นเพียงแห่งเดียว สถานที่แห่งนั้นเป็นภูมิลำเนาของนิติบุคคลนั้น และแม้จะมีภูมิลำเนาเฉพาะการหรือที่ทำการสาขา สำนักงานใหญ่ยังคงเป็นภูมิลำเนาของนิติบุคคลนั้นอยู่
ฎีกาที่ 2129/2527 ภูมิลำเนาของนิติบุคคลได้แก่ถิ่นที่สำนักงานแห่งใหญ่ หรือที่ตั้งทำการ หรือถิ่นที่ได้เลือกเอาเป็นภูมิลำเนาเฉพาะการตามข้อบังคับหรือตราสาร การที่สำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคลจำเลยถูกเพลิงไหม้ จะถือว่าจำเลยไม่มีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิมตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้งหาได้
ฎีกาที่ 2592/2527 ภูมิลำเนาของบริษัทจำเลยอยู่ ณ ถิ่นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ตาม ม.71 แม้จะย้ายไปอยู่แห่งอื่น แต่ตราบใดที่ยังมิได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงถิ่นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ไปตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งอื่น ก็ต้องถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ ณ ที่ตั้งเดิมตามที่ได้จดทะเบียนไว้
นิติบุคคลนั้นอาจมีภูมิลำเนาหลายแห่งได้ หากแห่งอื่นนอกจากสำนักงานใหญ่ยังคงใช้เพื่อประกอบกิจการของนิติบุคคลนั้น
ฎีกาที่ 1242/2526 บริษัทจำเลยมีวัตถุประสงค์ผลิตน้ำตาลทราย มีโรงงานผลิตน้ำตาลอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี และเรียกประชุมผู้ถือหุ้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีดังที่โจทก์ระบุในคำฟ้องว่าเป็นที่อยู่ของจำเลย การส่งหมายเรียกของเจ้าพนักงานศาลก็พบภริยากรรมการบริษัทจำเลย จึงได้ปิดหมายไว้แสดงว่าถิ่นอันเป็นที่ตั้งสำนักงานบริหารกิจการของจำเลยคือสถานที่ซึ่งบริษัทประชุมผู้ถือหุ้นอันเป็นสำนักทำการของจำเลย จึงถือได้ว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นภูมิลำเนาของจำเลยตาม ป.พ.พ.ม.71 และ ป.ว.พ.ม.68 เพียงแต่ปรากฏตามทะเบียนว่าที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร จะถือเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเสมอไปหาได้ไม่ ต้องถือตามถิ่นอันเป็นที่ตั้งสำนักงานบริหารกิจการของนิติบุคคลนั้นตามความเป็นจริง เมื่ออยู่ในเขตอำนาจศาลชั้นต้นด้วย ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้
สำนักงานสาขา
ฎีกาที่ 484/2507 สาขาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ไม่จำต้องจดทะเบียนอีกต่างหากฟ้องระบุว่า "บริษัทธนาคารมณฑล จำกัด สาขาภูเก็ต" เป็นจำเลย ย่อมหมายความว่าฟ้องธนาคารมณฑล จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลนั้น
ฎีกาที่ 1369/2525 จำเลยเป็นบริษัทอยู่ต่างประเทศ ได้มอบให้สำนักงานสาขาในประเทศไทยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ดังนี้ ถือว่าบริษัทจำเลยมีภูมิลำเนาในส่วนกิจการนี้ในประเทศไทยตาม ป.พ.พ. ม. 71 โจทก์จึงฟ้องจำเลยเรื่องเครื่องหมายการค้าในศาลไทยได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น