เป็นคำถามที่ตอบยากมาก เพราะข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ศาลเสียด้วย ไม่มีพยานหลักฐานใดในมือ ถ้าหากจะตอบขอตอบเป็นสองแนว ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งสองกรณี
กรณีที่ศาลจะรับคำร้อง ศาลสามารถรับคำร้องแล้วให้พิจารณาใหม่ได้ เนื่องจาก
๑. ศาลวินิจฉัยว่า การยื่นคำร้องไม่ได้กระทำโดยนายทะเบียน ดังนั้น การยืนคำร้องก็ไม่มีผล หากมีความเห็นนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์กระทำความผิดตามมาตรา 82 นายทะเบียนก็สามารถยื่นคำร้องได้ภายในสิบห้าวัน
๒. ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายโดยที่ยังมิได้มีการวินิจฉัยความผิด ซึ่งไม่ถือเป็นการวินิจฉัยในความผิดซึ่งได้ฟ้องอันเป็นการฟ้องซ้ำ อีกทั้งพยานหลักฐานและรูปคดีนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยต่อประชาชน ดังนั้น ศาลจึงชอบที่จะรับคำร้องคดีนี้ไว้พิจารณา และให้มีการสืบพยานหลักฐานกันใหม่ หรือคู่ความอาจจะอ้างพยานหลักฐานจากสำนวนในคดีเดิมก็ได้ การวินิจฉัยจะเร็วขึ้น
กรณีศาลจะไม่รับคำร้อง
๑. ไม่มีบทบัญญััติของกฎหมายให้อำนาจนำคดีขึ้นว่ากล่าวใหม่ได้ น่าจะเป็นเหตุผลสนับสนุนที่ตรงและถูกต้องที่สุดสำหรับกรณีไม่รับคำร้องที่จะยืื่นมาใหม่นี้
๒. และหากศาลได้ทำคำวิินิจฉัยส่วนตัวเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว ศาลไม่สามารถรับคำร้องได้เนื่องจากพยานหลักฐานและประเด็นต่างๆ รวมถึงคำวินิจฉัยได้ถูกเปิดเผยแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น