วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คดียุบพรรค ปชป. พรบ.พรรคการเมือง ม.93 ทำใมต้อง 15 วัน

ตามที่ตุลาการรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยต่อกรณีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยอาศัย พรบ. พรรคการเมือง 2550 มาตรา 93 โดยวินิจฉัยว่า

เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องคดีนี้ในวันที่ 26 เมษายน 2553 จึงพ้นระยะเวลา 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว กระบวนการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคของผู้ถูกร้องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัยคำร้องในประเด็นอื่นอีกต่อไป ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยโดยเสียงข้างมาก 4 ต่อ 2 ว่ากระบวนการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องไม่ชอบด้วยกฎหมายกรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในกรณีอื่นอีกต่อไปให้ยกคำร้อง

ปัญหาวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมกันว่า ระยะเวลา 15 วันนี้น้อยไปหรือเปล่า พิจารณาเพียงสิบห้าวันนี้ไม่ได้ เพราะจะต้องนำไปดูประกอบกับมาตรา 42 และ 82 ด้วย
มาตรา 93 ในกรณีที่พรรคการเมืองใดมีเหตุต้องเลิกตามข้อบังคับพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองนั้นยังมีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ หรือในกรณีที่พรรคการเมืองใดไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 42 วรรคสอง หรือมาตรา 82 ให้ยุบพรรคการเมืองนั้น
เมื่อปรากฏต่อนายทะเบียนว่าพรรคการเมืองใดมีเหตุตามวรรคหนึ่ง ให้นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐ ธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ความปรากฏต่อนายทะเบียน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นกับพรรคการ เมืองตามคำร้องของนายทะเบียน ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น
ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใดแล้ว ให้นายทะเบียนประกาศคำสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นในราชกิจจานุเบกษา

ความตามวรรคสองที่ว่า "เมื่อปรากฏต่อนายทะเบียนว่าพรรคการเมืองใดมีเหตุตามวรรคหนึ่ง (เหตุตามวรรคหนึ่งคือ เหตุตามมาตรา 42 หรือ มาตรา 82) ให้นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐ ธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ความปรากฏต่อนายทะเบียน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นกับพรรคการ เมืองตามคำร้องของนายทะเบียน ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น"

ปัญหาว่า เหตุตามมาตรา 42 หรือ มาตรา 82 นั้น ปรากฎต่อนายทะเบียนเมื่อไหร่

มาตรา 42 ให้หัวหน้าพรรคการเมืองจัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมาให้ถูกต้องตามความเป็นจริงตามวิธีการที่นายทะเบียนกำหนด และแจ้งให้ นายทะเบียนทราบภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ........ ถ้าพ้นกำหนด ระยะเวลาแล้วยังมิได้รายงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเพื่อให้มีการยุบพรรคการเมืองนั้น


มาตรา 82 พรรคการเมืองที่ได้รับเงินสนับสนุนต้องใช้จ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นไปตามที่ บัญญัติไว้ในส่วนนี้ และส่วนที่ 5 การใช้จ่ายของพรรคการเมือง และจะต้องจัดทำรายงาน การใช้จ่ายเงินสนับสนุนของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินให้ถูกต้องตามความเป็นจริง และยื่นต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป และให้นำความในมาตรา 42 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม

สรุปก็คือตั้งแต่เดือนเมษายน หากไม่มีการจัดทำรายงานการใช้จ่ายเงินสนับสนุน และยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องถือว่า "ปรากฎแก่นายทะเบียน" แล้ว

ระยะเวลาสิบห้าวันนี้มิใช่ระยะเวลาที่กำหนดให้นายทะเบียนพิจาณาเรื่องในส่วนของข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ ดังนั้น เมื่อนายทะเบียนทราบดวยความปรากฎแก่นายทะเบียนไม่ว่าเมื่อใด นายทะเบียนอาจทำการสืบสวนหาพยานหลักฐาน ในชั้นนี้กฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเืมื่อไหร่ ดังนั้น นายทะเบียนอาจจะใช้ระยะเวลาตามสมควร มิใช่กระบวนการทั้งหมดต้องแล้วเสร็จในสิบห้าวันแต่อย่างใด แต่เมื่อนายทะเบียนเห็นว่าพรรคการเมืองผู้ถูกร้องมีความผิดนายทะเบียนต้องทำความเห็นต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง และส่งพนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ความปรากฎต่อนายทะเบียน หมายถึง นายทะเบียนมีความเห็นว่า พรรคผู้ถูกต้องมีความผิดตามาตรา 82 ดังนั้นระยะเวลาที่นายทะเบียนจะพิจารณาถึงเนื้อหาของความผิดมีตั้งแต่เดือนเมษายน จึงไม่ใช่ระยะเวลาที่น้อย แต่ประเด็นดังกล่าวถูกนำไปกระจายสู่สังคมโดยบิดเบือนความจริงทางกฎหมาย ไม่ต่างอะไรกับการนำยาพิษไปใส่สังคมเลย

สำหรับทำใมต้องรีบยื่นคำร้องภายในสิบห้าวัน ท่านต้องไม่ลืมว่า คดีนี้ผู้ถูกร้องเป็นพรรคการเมือง ดังนั้นความกว้างขวาง และขีดความสามารถในการทำลายพยานหลักฐานหรือการแต่งพยานหลักฐานย่อมมีสูงเพื่อมิให้พยานหลักฐานได้รับความเสียหาย มิให้เกิดการกดดัน และเกิดความวุ่นวายขึ้น จึงต้องรีบทำการยื่นคำร้องภายในสิบห้าวันเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว อีกทั้ง ระยะเวลา 15 วันนี้มิใช่นำมาใช้เป็นประโยชน์ต่อพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้ไม่ว่าพรรคใดถูกร้องก็ต้องดำเนินการเป็นกระบวนการอย่างเดียวกัน และไม่ใช่การเลือกปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ11/12/53 13:39

    ก็ให้สงสัยว่า ทำไมถึงต้องยื่นล่าช้ากว่าสิบห้าวัน
    ก็ให้สงสัยว่า ท่านๆ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฏหมาย แต่เหตุใด จึงไม่เข้าใจในข้อกฎหมาย

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น