วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

พยาน การยื่นบัญชีระบุพยาน 1

การยื่นบัญชีระบุพยาน

การยื่นบัญชีระบุพยานนี้ เป็นไปตามหลักวิธีคิดของการเปิดเผยพยานหลักฐาน ซึ่งคู่ความที่ต้องการนำพยานหลักฐานมาสืบในศาลจะต้องเปิดเผยพยานหลักฐานของตนให้คู่ความอีกฝ่ายทราบ เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเสียเปรียบ กฎหมายจึงระบุให้มีการยื่นบัญชีระบุพยาน

ประมวลกฎหมายวิีธีพิจารณาคดีแพ่ง

มาตรา 88 เมื่อคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใดหรือคำเบิกความ ของพยานคนใด หรือมีความจำนงที่จะให้ศาลตรวจบุคคล วัตถุ สถานที่ หรืออ้างอิงความเห็น ของผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้งหรือความเห็นของผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตน ให้คู่ความฝ่ายนั้นยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ด วัน โดยแสดงเอกสารหรือสภาพของเอกสารที่จะอ้าง และรายชื่อ ที่อยู่ของบุคคล ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ วัตถุ หรือสถานที่ซึ่งคู่ความฝ่ายนั้นระบุอ้างเป็นพยานหลักฐาน หรือขอให้ศาลไปตรวจ หรือขอให้ตั้งผู้เชี่ยวชาญแล้วแต่กรณี พร้อมทั้งสำเนาบัญชีระบุพยานดังกล่าวในจำนวนที่เพียงพอ เพื่อให้คู่ความฝ่ายอื่นมารับไปจากเจ้าพนักงานศาล

ถ้าคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงจะยื่นบัญชีระบุพยาน เพิ่มเติม ให้ ยื่นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลพร้อมกับบัญชีระบุพยาน เพิ่มเติมและสำเนาบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมดังกล่าวได้ภายในสิบห้าวัน นับแต่วันสืบพยาน

เมื่อระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยานตาม วรรคหนึ่งหรือ วรรคสองแล้วแต่กรณี ได้สิ้นสุดลงแล้ว ถ้าคู่ความฝ่ายใดซึ่งได้ยื่น บัญชีระบุพยานไว้แล้ว มีเหตุอันสมควรแสดงได้ว่าตนไม่สามารถ ทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ หรือมี เหตุอันสมควรอื่นใด หรือถ้าคู่ความฝ่ายใด ซึ่งมิได้ยื่นบัญชี ระบุพยานแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่ สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้ คู่ความ ฝ่ายนั้นอาจยื่นคำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานเช่นว่านั้นต่อศาลพร้อมกับ บัญชีระบุพยาน และสำเนาบัญชีระบุพยานดังกล่าวไม่ว่า เวลาใด ๆ ก่อนพิพากษาคดี และถ้าศาลเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัย ชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม จำเป็นจะต้อง สืบพยานหลักฐานเช่นว่านั้น ก็ให้ศาลอนุญาตตามคำร้อง

อธิบาย

พยานหลักฐานที่ต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 88 เรื่องการยื่นบัญชีระบุพยานนั้น ต้องเป็นพยานหลักฐานที่ใช้ในการพิจารณาคดีในส่วนที่เป็นเนื้อหาหลักของคดีจริงๆ เช่น คดีฟ้องกันว่ากู้ยืมเงิน สัญญากู้เป็นพยานหลักฐานที่ใช้เพื่อสนับสนุนคำฟ้องของคดีอันเป็นเนื้อหาของคดี ต้องระบุพยานไว้หากไม่ระบุพยานไว้จะนำเข้าสืบไม่ได้

ฎีกาที่ 3130/2523 จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน จำเลยอ้างตัวเองเป็นพยานเข้าสืบไม่ได้ จำเลยจะอ้างว่าจำเลยเป็นคู่ความไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุอ้างตนเองเป็นพยานตาม ป.วิ.พ.มาตรา 88 ไม่ได้

เมื่อได้ระบุผู้ใดเป็นพยานบุคคลแล้ว ต้องได้สืบพยานบุคคลคนนั้นเท่านั้น จะมอบอำนาจให้คนอื่นเบิกความแทนไม่ได้

ฎีกาที่ 1972/2525 การเบิกความต่อศาลเป็นกิจเฉพาะตัว โดยสภาพไม่อาจตั้งให้ผู้อื่นทำแทนได้ ตามบัญชีพยานระบุว่าจำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมิได้ระบุ ส. เป็นพยาน ดังนี้ แม้ปรากฏว่า ส. ได้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ยื่นคำให้การและเบิกความแทนจำเลย และศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยนำ ส. เข้าเบิกความ ศาลก็จะรับฟังคำเบิกความของ ส. เป็นพยานหลักฐานไม่ได้

การพิสูจน์ต่อพยาน (การถามค้าน) พยานหลักฐานที่ใช้ในการถามค้าน ไม่ต้องยื่นบัญชีระบุพยาน เพราะคู่ความฝ่ายที่ถามค้าน ไม่อาจทราบได้ว่า ฝ่ายถามความนั้นจะถามอะไร

การอ้างสำนวนความในคดีอื่นต้องระบุพยานเช่นกัน เช่น โจทก์ในคดีละเมิด อ้างสำนวนคดีอาญาที่ศาลวินิจฉัยเรื่องพยานหลักฐานไว้ในคดีอาญามาประกอบคดีแพ่งเพื่อรับฟังเป็นพยาน โจทก์ต้องระบุพยานด้วยเช่นกันว่า เป็นสำนวนคดีอาญาหมายเลขใดของศาลใด

เว้นแต่ กรณีที่คู่ความแถลงรับกันตกลงให้นำสำนวนอื่นมาประกอบการพิจารณาคดีนี้ และศาลได้มีคำสั่งให้นำสำนวนนั้นมาผูกติดไว้แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจรับฟังสำนวนนั้นประกอบการพิจารณาคดีได้ แม้จะมิได้มีการยื่นบัญชีระบุพยานอ้างสำนวนนั้นอีกก็ตาม ( 445/2509 , 997/2521)


การอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการพิเศษต้องยื่นบัญชีระบุพยานด้วยเช่นกัน

1 ความคิดเห็น:

  1. ิวิธีการนำสืบพยานบุคคลหลายปาก กฏหมายกำหนดวิธีการนำสืบอย่างไรครับ แล้วก็ จำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน มีวิธีการอย่างไรครับ

    รบกวนด้วยนะครับ

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น