อาวัล
มาตรา 938 ตั๋วแลกเงินจะมีผู้ค้ำประกันรับประกันการใช้เงินทั้งจำนวนหรือแต่บางส่วนก็ได้ ซึ่งท่านเรียกว่า "อาวัล"
อันอาวัลนั้นบุคคลภายนอกคนใดคนหนึ่งจะเป็นผู้รับ หรือแม้คู่สัญญาแห่งตั๋วเงินนั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้รับก็ได้
อธิบาย แม้มาตรา 938 จะระบุว่าตั๋วแลกเงิน แต่มาตรานี้นำไปใช้กับตั๋วแลกเงินและเช็คด้วย (985
วรรคแรก และ 989 วรรคแรก) การอาวัลคือการค้ำประกันการใช้เงินตามตั๋วนั่นเอง ซึ่งบุคคล ภายนอก หรือคู่สัญญาในตั๋วเงินนั้นจะเป็นผู้อาวัลก็ได้ การอาวัลนั้นจะจำกัดจำนวนเงินที่อาวัลได้ เช่น ตั๋วแลกเงินราคา 50,000 บาท แต่ผู้อาวัลเขียนว่า “ข้าพเจ้าขอค้ำประกันการใช้เงิน 20,000 บาท” เช่นนี้เป็นการอาวัลบางส่วน
มาตรา 939 อันการรับอาวัลย่อมทำให้กันด้วยเขียนลงในตั๋วแลกเงินนั้นเอง หรือที่ใบประจำต่อ
ในการนี้พึงใช้ถ้อยคำสำนวนว่า "ใช้ได้เป็นอาวัล" หรือสำนวนอื่นใดทำนองเดียวกันนั้น
และลงลายมือชื่อผู้รับอาวัล
อนึ่ง เพียงแต่ลงลายมือชื่อของผู้รับอาวัลในด้านหน้าแห่งตั๋วเงินท่านก็จัดว่าเป็นคำรับ
อาวัลแล้ว เว้นแต่ในกรณีที่เป็นลายมือชื่อของผู้จ่ายหรือผู้สั่งจ่าย
ในคำรับอาวัลต้องระบุว่ารับประกันผู้ใด หากมิได้ระบุ ท่านให้ถือว่ารับประกันผู้สั่งจ่าย
อธิบาย วิธีการอาวัลทำได้ 2 วิธี คือ
1. ลงข้อความด้านหน้าหรือด้านหลังก็ได้ในตั๋วเงินหรือใบประจำต่อโดยใช้ข้อความ"ใช้ได้เป็นอาวัล" หรือสำนวนอื่นใดทำนองเดียวกันนั้น เช่น “รับประกัน” “ค้ำประกัน” “ขอประกัน” เป็นต้น และลงลายมือชื่อผู้รับอาวัล ในการอาวัลต้องระบุด้วยว่าอาวัลผู้ใด ถ้าไม่ระบุถือว่าอาวัลผู้สั่งจ่าย
2. ลงข้อความด้านหน้าอย่างเดียวโดยไม่ต้องเขียนข้อความใดๆ ถือว่าเป็นการอาวัลผู้สั่งจ่ายเว้นแต่ถ้าเป็นลายมือชื่อของผู้สั่งจ่ายกับผู้จ่ายจะไม่ถือเป็นการอาวัล แสดงว่าผู้จ่ายและผู้สั่งจ่าย เป็นผู้ต้องถูกห้ามอาวัล เพราะมิฉะนั้นจะกลายเป็นการอาวัลารใช้เงินของตนเอง ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
แก่ผู้ทรงแต่อย่างใด
แม้ถึงว่าความรับผิดใช้เงินอันผู้รับอาวัลได้ประกันอยู่นั้น จะตกเป็นใช้ไม่ได้ด้วยเหตุใด ๆ นอกจากเพราะทำผิดแบบระเบียบ ท่านว่าข้อที่สัญญารับอาวัลนั้นก็ยังคงสมบูรณ์
เมื่อผู้รับอาวัลได้ใช้เงินไปตามตั๋วแลกเงินแล้ว ย่อมได้สิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่บุคคล
ซึ่งตนได้ประกันไว้ กับทั้งบุคคลทั้งหลายผู้รับผิดแทนตัวผู้นั้น
อธิบาย การอาวัลต้องระบุว่าอาวัลผู้ใดถ้าไม่ระบุถือว่าอาวัลผู้สั่งจ่าย ๙๓๙ วรรคท้าย เว้นแต่ถ้าเป็นการลงลายมือชื่อในตั๋วผู้ถือกฎหมายถือว่าอาวัลผู้สั่งจ่าย 921 ที่ว่าต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันกับบุคคลซึ่งตนประกัน คือต้องรับผิดเท่ากับบุคคลซึ่งตนประกันเว้นแต่อาวัลบางส่วน ๙๓๘ วรรคแรกผู้รับอาวัลจะเกี่ยงให้เจ้าหนี้ไปไล่เบี้ยเอากับลูกหนี้ก่อนไม่ได้ต่างจากการค้ำประกันธรรมดา และผู้อาวัลจะยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้ไม่ได้ต่างจากค้ำประกันธรรมดา
วรรคสอง ที่ว่า แม้ถึงว่าความรับผิดใช้เงินอันผู้รับอาวัลได้ประกันอยู่นั้น จะตกเป็นใช้ไม่ได้ด้วยเหตุใด ๆ นอกจากเพราะทำผิดแบบระเบียบ ท่านว่าข้อที่สัญญารับอาวัลนั้นก็ยังคงสมบูรณ์
เช่น บางกรณี ผู้ถูกรับอาวัล (ลูกหนี้) อาจหลุดพ้นจากความรับผิดเนื่องจากถูกกลฉ้อฉล ถูกข่มขู่ หรือเข้าทำสัญญากับผู้หย่อนความสามารถ แต่ผู้อาวัลไม่หลุดพ้นไปด้วยยังคงต้องรับผิดอยู่เสมอนอกเสียจากเป็นเพราะทำผิดแบบระเบียบ เช่น
๑. ตั๋วเงินขาดรายการสำคัญแม้เพียงรายการเดียวย่อมไม่สมบูรณ์เป็นตั๋วเงิน
๒. การสลักหลังที่ผิดระเบียบวิธี
๓. การรับรองที่ผิดแบบ
๔. ผู้ทรงละเลยการทำคำคัดค้าน
****การที่ผู้ทรงยอมผ่อนเวลาให้ลูกหนี้ไม่ใช่การทำผิดแบบระเบียบผู้อาวัลไม่หลุดพ้น
วรรคท้าย เป็นสิทธิของผู้อาวัลที่ได้ใช้เงินไปแล้วจะไปไล่เบี้ยเอากับใครได้บ้าง
๑. แก่บุคคลซึ่งตนประกันไว้
๒. บุคคลทั้งหลายผู้รับผิดแทนตัวผู้นั้น (ผู้ซึ่งเป็นลูกหนี้ของผู้ถูกอาวัล)
ปัญหาว่าหากมีผู้อาวัลหลายคนอาวัลบุคคลคนเดียวกันจะไล่เบี้ยกันเองได้หรือไม่ เห็นว่า ผู้อาวัลทั้งหลายต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกันไม่น่ามีสิทธิไล่เบี้ยกันเองได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น