คำนำหน้านามนั้นสำคัญไฉน?
จริงอยู่..
คำนำหน้านามเป็นเพียงสมมุติบัญญัติในทางธรรม
ไม่สามารถยึดมั่นถือมั่นด้วยความเป็นเราเป็นของเราได้
แต่ในทางสังคมมนุษย์แล้วคำนำหน้านามย่อมมีความสำคัญด้วยเป็นการบ่งบอกสถานะของคนในสังคม ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคม
ต่างกับสัตว์ที่แม้อยู่รวมกันก็ไม่ต้องมีคำนำหน้านามแสดงสถานะ
เพราะจ่าฝูงย่อมแสดงสถานะด้วยสภาวะสัจจะคือสภาวะอำนาจตามสัญชาตญาณ
ในอดีต คำนำนามหน้า
ถูกเรียกขานเพื่อแสดงศักดินาของคน เช่น การใช้คำนำหน้านามของชนชั้นไพร่ว่า
“อำแดง” ในกรณีเป็นหญิง “นาย” ในกรณีเป็นชาย
และ “อี” “ไอ้” ในกรณีเป็นทาสหญิงและทาสชาย
ในส่วนของพระภิกษุ สังคมไทยยกย่องไว้ในที่สูงกว่าศักดินาฆารวาส พระภิกษุ สามเณร
ในพระพุทธศาสนาจึงต้องมีคำนำหน้านามที่แยกจากคนทั่วไป คือ
มีคำนำหน้านามอันสูงส่งว่า “พระ”
อะไรก็ตามที่คนไทยยกเป็นของสูงจะเรียกขานด้วยคำนำหน้านามว่า “พระ” เช่น พระเจ้าอยู่หัว
ฯลฯ พระอัยการ คือคำเรียกขานกฎหมายซึ่งยกไว้เป็นของสูง
พระบาลี
คือคำเรียกขานภาษาบาลีซึ่งถือเป็นภาษาสูง
จึงมีกฎหมายยกเว้นการทำบัตรประชาชนของพระ และให้พระต้องใช้คำนำหน้านามว่า “พระ”
หรือ “พระมหา” กรณีสอบได้เป็นเปรียญธรรมตั้งแต่ประโยคสามขึ้นไป
การพูดหรือสนทนากับพระ ญาติโยมมักให้เกรียติพระเสมอ แม้เป็นกษัตริย์เมื่อจักสนทนากับพระ
ก็จะต้องกราบไหว้พระ สนทนาด้วยความนอบน้อม เป็นครูบาอาจารย์จะสอนหนังสือพระ
ก็ต้องถวายความรู้ด้วยความนอบน้อม
ก่อนสอนก็กราบไหว้
สอนเสร็จก็กราบไหว้
ผิดกับการสอนหนังสือแก่ฆารวาสทั่วไปที่ศิษย์ต้องกราบไหว้ขอความรู้จากอาจารย์ เมื่อเป็นดังนี้แล้ว การแสดงสมณเพศจึงเป็นสิ่งสำคัญ การที่ภิกษุ สามเณร ไม่แสดงสมณเพศส่งผลกระทบถึงสังคมหลายประการ ปัจจุบันพบว่า พระภิกษุ สามเณรที่ใช้การสื่อสารระบบออนไลน์ทุกรูปแบบเช่น
Facebook ไม่เปิดเผย ไม่แสดงสมณเพศ
ทำให้เกิดปัญหาในการสนทนากับฆารวาสที่มิทราบว่าคู่สนทนาเป็นพระคุณเจ้า สีกาอาจจะสนทนาหยอกล้อด้วยคำมิควร และพระภิกษุ สามเณร ที่มีจิตไม่บริสุทธิ์ ไม่ซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย
ไม่รักษาเสขิยวัตร ข้อปฏิบัติอันงดงาม
อาศัยการซ่อนตัวในระบบออนไลน์ปฏิบัติหรือสนทนาในสิ่งที่มิควรปฏิบัติหรือสนทนาเป็นอันมาก
ในปี พ.ศ.๒๔๗๙ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และมติของ มหาเถรสมาคม จึงมีคำสั่งให้ภิกษุเซนต์นามที่แน่นอน ซึ่งรวมไปถึงการแสดงนามที่แน่นอนในลักษณะการ Analogy กฎหมายด้วย หากภิกษุแสดงนามไม่แน่นอน คือไม่แสดงนามตามกฎหมายว่า “พระ” หรือ “พระมหา”
มีโทษถึงจับสึก
มติมหาเถรสมาคม
เรื่องการใช้คำนำหน้านามของภิกษุ สามเณร
มติมหาเถรสมาคม
เรื่องการใช้คำนำหน้านามพระมหา
ดังนั้น ภิกษุ สามเณร
ในพระพุทธศาสนา จึงควรแสดงนาม และแสดงความเป็นสมณเพศให้ถูกต้อง พระคุณเจ้ามีสิทธิที่จะใช้นามหรือแสดงนาม
แต่พระคุณเจ้าจะใช้สิทธิให้ขัดต่อบทบัญญัติของกฏหมายไม่ได้ พระคุณเจ้ามีเสรีภาพที่จะแสดงนาม
แต่พระคุณเจ้าจะใช้เสรีภาพขัดต่อสิทธิของผู้อื่น
คือสิทธิของพุทธบริษัทที่มีสิทธิรู้ เห็นและตรวจสอบวินัยของพระคุณเจ้าไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น