การอ่านบทความนี้
ควรอ่านบทความในตอนที่ ๑ เสียก่อน
http://natjar2001law.blogspot.com/2012/02/blog-post_29.html
http://natjar2001law.blogspot.com/2012/02/blog-post_29.html
คดีมีทุนทรัพย์
ไม่มีทุนทรัพย์
คดีมีทุนทรัพย์ คือคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เช่นคดีพิพาทในเรื่องกรรมสิทธิ์เกี่ยวกับอสังฯ
หรือสังฯ คดีเรียกทรัพย์คืน
หรือให้ใช้ราคาทรัพย์
คดีพิพาทตามสัญญาต่าง ๆ โดยมีการเรียกร้องให้ชำระหนี้
เช่นสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาจ้างแรงงาน จ้างทำของ
หรือละเมิด
คดีไม่มีทุนทรัพย์ คือคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เช่นคดีพิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินหรือมิได้เรียกร้องเอาทรัพย์คืนหรือให้ใช้ราคาทรัพย์แก่ตน
แต่เป็นกรณีคู่ความต้องการให้ศาลรับรองคุ้มครองให้
เช่นคดีที่โจทก์ขอลงชื่อในกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลย คดีร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก เพิกถอนการฉ้อฉล โดยให้ทรัพย์กลับมาเป็นของลูกหนี้มิใช่ของตน
ตัวอย่างคดีมีทุนทรัพย์
ฎีกาที่ 5332/34 โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะ
อันเป็นการเรียกร้องให้ทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมคืนมา
เป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท
จึงเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์
ฎีกาที่ 919/08 โจทก์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินซึ่งจำเลยที่
1 ลูกหนี้โจทก์ได้โอนขายให้แก่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ
ฟ้องเช่นนี้เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
เพราะคำขอของโจทก์ไม่ได้เรียกร้องเอาที่พิพาทมาเป็นของโจทก์
หรือขอให้โจทก์ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นแต่อย่างใดผลของการที่โจทก์ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล
มีแต่เพียงให้ทรัพย์สินกลับคืนมาเป็นของลูกหนี้ตามเดิมเท่านั้น
จำเลยที่ 2 ไปจดทะเบียนเพิกถอนชื่อออกจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และขับไล่จำเลยที่ 2 ออกไป
กับให้จำเลยที่ 1 โอนชื่อทางทะเบียนให้แก่โจทก์ทั้งสองจำเลยที่
2 ให้การต่อสู้ว่า
จำเลยที่ 2 ซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1 และเข้าครอบครองทำประโยชน์เป็นเวลา
4 ปี 9 เดือนเศษ
โจทก์ทั้งสองมิได้ครอบครองที่ดินพิพาทและขัดขวางจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด
ดังนี้ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า
ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสองหรือเป็นของจำเลยที่ 2 จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์
แม้โจทก์ทั้งสองจะมีคำขอให้จำเลยที่ 2 เพิกถอนชื่อออกจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์กับให้จำเลยที่
1 โอนชื่อทางทะเบียนให้แก่โจทก์ทั้งสองก็เป็นผลต่อเนื่องในเรื่องที่ดินพิพาทเป็นของใคร
ถือไม่ได้ว่าเป็นคดีมีคำขออันไม่มีทุนทรัพย์แยกกันได้จากคำขอที่เป็นทุนทรัพย์ เมื่อราคาที่ดินพิพาทซึ่งเป็นทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ย่อมต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ.มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
ฎีกาที่ 2745/32 โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของมีสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งจำเลยได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะ
และให้จำเลยออกโฉนดที่พิพาทให้โจทก์
ดังนี้ เป็นการฟ้องเรียกกรรมสิทธิ์ที่ดินจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์
ฎีกาที่ 121/42 โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท
ซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยยกให้เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน
จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้ยกที่พิพาทให้เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ที่พิพาทเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นของจำเลย
หากที่พิพาทเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินโจทก์ย่อมมีอำนาจปกปักรักษาตามกฎหมาย
ถ้าจำเลยชนะคดีย่อมมีผลให้จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท
ประโยชน์ที่โจทก์หรือจำเลยจะได้รับย่อมเป็นการปลดเปลื้องทุกข์ที่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
เป็นการพิพาทด้วยเรื่องความเป็นเจ้าของแห่งที่พิพาท จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์
ฎีกาที่ 1042/38 การที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า
จำเลยทั้งสองชำระค่าสินค้าตามฟ้องครบถ้วนแล้วเป็นการโต้เถียงดุลพินิจการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระค่าสินค้าตามฟ้องแก่โจทก์จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันชำระค่าสินค้าและดอกเบี้ยตามฟ้องแก่โจทก์
ดังนั้นฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อคดีนี้มีทุนทรัพย์ 133,061 บาท จึงต้องห้ามฎีกา
ฎีกาของจำเลยทั้งสองเกี่ยวกับฟ้องแย้งนั้น
เป็นการฟ้องแย้งขอให้โจทก์ส่งมอบใบสำคัญรับบิลอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้ของโจทก์จำนวน
123,119 บาทถือได้ว่าเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
ตามจำนวนหนี้ในใบสำคัญรับบิลดังกล่าว จึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ 123,119 บาท
จึงเป็นคดีที่มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง
ฎีกาที่ 346/36 กรณีพิพาทกันในชั้นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
ถือว่าเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรือที่เรียกว่าคดีมีทุนทรัพย์
และทุนทรัพย์ก็คือจำนวนเงินตามที่โจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้
ฎีกาที่ 853/17 โจทก์ฟ้องว่าได้ตกลงจำนองที่ดินไว้กับจำเลยแต่ได้ทำเป็นสัญญาขายฝากซึ่งเป็นนิติกรรมอำพราง ดังนี้
เป็นการฟ้องเรียกเอาคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยอ้างว่านิติกรรมที่ทำไว้ต่อกัน
เสื่อมเสียเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ซึ่งอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
ฎีกาที่ 1176/05 โจทก์ฟ้องว่าตนมีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตาย มีที่ดินมีโฉนด 2 แปลงแต่จำเลยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้จำเลยโจทก์จึงขอให้ศาลแสดงว่าพินัยกรรมที่จำเลยอ้างเป็นโมฆะดังนี้
ถือว่าโจทก์จำเลยมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์แล้วจึงมีอำนาจฟ้องได้
และคดีเช่นนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์
หมายเหตุ ถ้าเป็นคดีเกี่ยวกับการฟ้องขอให้เพิกถอนต่าง
ๆ ดูว่าถ้าศาลเพิกถอนแล้วโจทก์จะได้ทรัพย์สินนั้นกลับมาเป็นของโจทก์อีกครั้ง เป็นคดีมีทุนทรัพย์
คดีไม่มีทุนทรัพย์
คำสั่งคำร้องที่ 513/00 ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ไม่ใช่การฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลย
แต่เป็นการฟ้องเพื่อให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
ฎีกาที่ 1054/09 โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทฟ้องขับไล่ให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาท
จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลยจำเลยปลูกบ้านเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของมารดาเมื่อ
จำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลยจึงไม่เป็นการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
ฎีกาที่ 1216/22 คดี
จ.พ.ท.ขอให้เพิกถอนการโอนและการฉ้อฉล
มีผลให้ทรัพย์สินกลับคืนเป็นของลูกหนี้ตามเดิม มิได้เรียกร้องทรัพย์หรือรับประโยชน์เพิ่มขึ้น
เป็นคดีคำขอปลดเปลื้องทุกข์คำนวณเป็นราคาเงินไม่ได้ ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
- ฟ้องห้ามมิให้จำเลยกระทำการให้เกิดเสียงหรือกลิ่นที่น่ารำคาญเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์แม้จะเรียกค่าเสียหายมาด้วย ดูที่คำขอประธานเป็นหลัก
ฎีกาที่ 2153/20 ฟ้องขอให้ห้ามมิให้ทำเสียงดัง ส่งกลิ่นเดือดร้อนรำคาญกับเรียกค่าเสียหาย 10,000
บาท ต่อไปเดือนละ 5,000 บาท
จนกว่าจะหยุดทำละเมิดเป็นคดีปลดเปลื้องทุกข์คำนวณเป็นราคาเงินไม่ได้ แม้เรียกค่าเสียหายด้วยไม่เกิน 10,000 บาท และต่อไปเดือนละ 5,000 บาท
ก็ไม่ใช่คดีมีทุนทรัพย์ตาม ป.ว.พ.
ม.224 วรรคแรกอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คำสั่งคำร้องที่ 846/27 ฟ้องขอให้ห้ามมิให้จำเลยใช้ชื่อสถานประกอบการค้าที่อ่านออกเสียงคล้ายคลึงกับชื่อสถานประกอบการค้าของโจทก์ แม้จะเรียกค่าสินไหมทดแทนมาเพียง 50,000
บาท
พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องก็เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
-
ผู้รักษาทรัพย์อุทธรณ์ให้ศาลกำหนดค่ารักษาทรัพย์ใหม่เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
ฎีกาที่ 1566/24 ค่ารักษาทรัพย์ซึ่งผู้ชนะคดีนำยึดและมีสัญญากำหนดไว้กับผู้รักษาทรัพย์นั้น
ค่ารักษาทรัพย์เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควร ผู้รักษาทรัพย์อุทธรณ์ฎีกาได้ถ้าเห็นว่าศาลกำหนดให้ต่ำไปเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์มิใช่คดีมีทุนทรัพย์ตามที่ผู้รักษาทรัพย์อุทธรณ์ฎีกาเรียกร้องเอา
ฎีกาที่ 2745/32 โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของมีสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งจำเลยได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะ
และให้จำเลยออกโฉนดที่พิพาทให้โจทก์
ดังนี้ เป็นการฟ้องเรียกกรรมสิทธิ์ที่ดินจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์
ในคดีต่างๆ มีหลักการคิดทุนทรัพย์ ที่มีรายละเอียดมากมาย จะได้กล่าวต่อไปในตอนที่ ๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น