วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เทคนิคการท่องตัวบทกฏหมายให้ง่ายและจดจำขึ้นใจ



การท่องตัวบทกฏหมายเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นักเรียนกฏหมายมีความรู้สึกว่ายาก  และเบื่อหน่าย  แต่หากเลือกการเรียนในวิชานิติศาสตร์แล้ว การท่องไม่อาจหนีไปได้เลย เลี่ยงไม่ได้เลย เพราะไม่เฉพาะแต่ในการใช้ในการสอบเท่านั้น แต่ผู้ที่สามารถจำตัวบทกฏหมายได้มากและแม่นยำ  จะกลายเป็นผู้วินิจฉัยเหตุการณ์ในความผิดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว


บทความนี้จึงขอนำเสนอวิธีการท่องตัวบทกฏหมาย  แต่จะปฏิบัติตามวิธีการต่อไปนี้ได้  จงทำใจให้ได้เสียก่อนว่า  การท่องตัวบทคืองานหลักของเรา ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องทำ  กำจัดความลังเลสงสัยว่าจะมีวิธีการอื่นไหมหนอที่จะไม่ต้องอาศัยการท่องออกไปเสีย  แล้วเริ่มทำดังนี้




อ่านตัวบทมาตรานั้นสักสองสามรอบ แล้วเอาดินสอทำเครื่องหมายขีดขั้นไว้เป็นการแบ่งประโยคสั้นๆ ระวังอย่าให้ขาดคำ เข่น 


มาตรา 82 ผู้ใดพยายามกระทำความผิด หากยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด/ หรือกลับใจแก้ไขไม่ให้การกระทำนั้นบรรลุผล/ ผู้นั้นไม่ต้องรับ โทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้น/ แต่ถ้าการที่ได้กระทำไป แล้วต้องบทกฎหมายที่บัญญัติเป็นความผิด/ ผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับ ความผิดนั้น ๆ

แล้วหลับตาลง หายใจเข้าให้ลึก หายใจออกให้ยาว จิตอยู่ที่ลมหายใจ แล้วนึกถึงภาพตัวอักษรที่เราอ่านไว้และได้แบ่งเป็นประโยคไว้ ตัวอักษรจะปรากฏเป็นภาพในนิมิตเราเหมือนเราดูจากหนังสือ แล้วเริ่มท่องจนจำขึ้นใจทีละประโยค เมื่อครบทั้งมาตราแล้ว ท่องยาวรวดเดียวอีกสักหลายรอบ จะจำขึ้นใจ ผ่านไปเป็นสิบๆ ปีไม่มีลืม

ครูทำแบบนี้มานานเป็นยี่สิบปีก่อน เพิ่งรู้ว่านี่คือการใช้อานาปานสติ. และปฐมฌาน ที่พระพุทธเจ้าที่ทรงสอนในฌานสี่และอานาปานสติ นั่นเอง


โลกุตรฌาณ ฌาณ ๔ นำสู่พระนิพพานเป็นไฉน? 
[๗๒๑] ฌาน ๔ คือ
๑. ปฐมฌาน
๒. ทุติยฌาน
๓. ตติยฌาน
๔. จตุตถฌาน

[๗๒๒] ในฌาน ๔ นั้น ปฐมฌาน เป็นไฉน
ภิกษุในศาสนานี้ เจริญโลกุตตรฌาน 
อันเป็นเครื่องนำออกไปจากโลกให้เข้าสู่นิพพาน 
เพื่อประหาณทิฏฐิ เพื่อบรรลุปฐมภูมิ 
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน 
ประกอบด้วยวิตก วิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวก 
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา อยู่ ในสมัยใด ฌานมีองค์ ๕ คือ
วิตก 
วิจาร 
ปีติ 
สุข 
เอกัคคตาแห่งจิต มีในสมัยนั้น นี้เรียกว่า ปฐมฌาน
ธรรมทั้งหลายที่เหลือ เรียกว่าธรรมที่สัมปยุตด้วยฌาน

[๗๒๓] ทุติยฌาน เป็นไฉน
ภิกษุในศาสนานี้ เจริญโลกุตตรฌาน 
อันเป็นเครื่องนำออกไปจากโลกให้เข้าไปสู่นิพพาน 
เพื่อประหาณทิฏฐิ เพื่อบรรลุปฐมภูมิ บรรลุทุติยฌาน 
อันเป็นไปในภายใน เป็นธรรมชาติผ่องใส 
เพราะวิตกวิจารสงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้นแก่ใจ 
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร 
มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ 
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา อยู่ ในสมัยใด ฌานมีองค์ ๓ คือ 
ปีติ 
สุข 
เอกัคคตาแห่งจิตมีในสมัยนั้น นี้เรียกว่า ทุติยฌาน 
ธรรมทั้งหลายที่เหลือ เรียกว่า ธรรมที่สัมปยุตด้วยฌาน

[๗๒๔] ตติยฌาน เป็นไฉน
ภิกษุในศาสนานี้ เจริญโลกุตตรฌาน 
อันเป็นเครื่องนำออกไปจากโลกให้เข้าสู่นิพพาน 
เพื่อประหาณทิฏฐิ เพื่อบรรลุปฐมภูมิ 
เพราะคลายปีติได้อีกด้วยจึงเป็นผู้มีจิตเป็นอุเบกขา 
มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกาย บรรลุตติยฌาน 
ซึ่งเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่า 
เป็นผู้มีจิตเป็นอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข ดังนี้ 
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา อยู่ ในสมัยใด ฌานมีองค์ ๒ คือ 
สุข 
เอกัคคตาแห่งจิต มีในสมัยนั้น นี้เรียกว่าตติยฌาน 
ธรรมทั้งหลายที่เหลือ เรียกว่าธรรมที่สัมปยุตด้วยฌาน

[๗๒๕] จตุตถฌาน เป็นไฉน
ภิกษุในศาสนานี้ เจริญโลกุตตรฌาน 
อันเป็นเครื่องนำออกไปจากโลกให้เข้าสู่นิพพาน 
เพื่อประหาณทิฏฐิ เพื่อบรรลุปฐมภูมิ บรรลุจตุตถฌาน 
ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขและทุกข์ได้ 
เพราะโสมนัสและโทมนัสดับสนิทในก่อน 
มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา อยู่ ในสมัยใด
ฌานมีองค์ ๒ คือ 
อุเบกขา 
เอกัคคตาแห่งจิต มีในสมัยนั้น นี้เรียกว่า จตุตถฌาน
ธรรมทั้งหลายที่เหลือ เรียกว่า ธรรมที่สัมปยุตด้วยฌาน

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=35&A=8618&Z=8653

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒
วิภังคปกรณ์

1 ความคิดเห็น:

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น